พายเรือกินลม ชมวิวยามบ่ายที่บางปะกง

พายเรือกินลม ชมวิวยามบ่ายที่บางปะกง

พายปล่อยใจ บ่ายบางปะกง (Bang pakong Afternoon) | Feelfree Thailand

เชื่อว่าในช่วงเวลานี้ หลายต่อหลายคนกำลังเบื่อหน่ายคล้ายจะเอียนกับการที่ต้องอยู่บ้านเป็นส่วนใหญ่ เว้นระยะห่างทางสังคม ห่างจากการออกไปเที่ยวข้างนอกบ้าน มีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นและสิ่งต่าง ๆ ใหม่ ๆ รอบตัวน้อยลงอย่างมาก สิ่งเหล่านี้ได้ส่งผลต่อชีวิตประจำวันของเราอย่างมาก

 ทางออกเดียวที่พอจะช่วยให้หนีจากความวุ่นวาย(ใจ)ได้ คือ การหาเวลาสั้น ๆ ออกไปกอบโกยความสุข ให้จิตใจได้ปลดปล่อย ให้บรรรยากาศโดยรอบช่วยผ่อนคลาย สร้างวิเวกส่วนตัวไม่พลุกพล่านปั่นป่วนกับผู้คน และหนึ่งในสถานที่ที่มีส่วนประกอบครบดังที่กล่าวไปข้างต้นก็คือ บางปะกง โดยมีตัวกลางของการไปปล่อยใจชิลล์ในครั้งนี้เป็น การพายเรือคายัค

จากกรุงเทพฯหรือพื้นที่ใกล้เคียง การเดินทางไม่ไกลมาก ใช้เวลาเดินทางเพียงแค่สั้น ๆ เพื่อช่วงเวลาแห่งความปิติที่ยาว ๆ ที่เราจะได้รับ โดยรอยยิ้มแรกที่ได้แจกและได้รับเมื่อไปถึงเลยก็คือ การได้พูดคุยทักทายกับผู้คนในชุมชนละแวกนั้น สนทนาแลกเปลี่ยนความสุขกันเล็ก ๆ น้อย ๆ พอสังเขป ก่อนจะเตรียมพร้อมลงเรือและเริ่มออกพาย

และแล้วสิ่งที่ตั้งใจตั้งตาเตรียมตัวรอก็มาถึง ได้เวลาจดจ่อกับสิ่งรายล้อมที่ดีต่อใจ กับการพายเรือในแม่น้ำบางปะกง หันหัวเรือสู่ทางปากอ่าว พายไปเรื่อย ๆ ปล่อยใจผ่อนคลาย พูดคุยกับผู้คนที่กำลังลอยเรือเพื่อจับปลาทำประมงเลี้ยงชีพ ไล่สายตาหาเหล่าปลาตีนที่โดดจ๋อมลงน้ำและว่ายหนีไปอย่างรวดเร็วเมื่อเราเข้าใกล้ เห็นแล้วก็ต้องแอบพึมพำในใจ “เราไม่ได้มารบกวนธรรมชาติ เราแค่มาขอแบ่งปันความสุขเยียวยาจิตใจของเราสักเล็กน้อยก็เพียงเท่านั้น”

เมื่อได้พายมาถึงกลางทาง ได้พบกับผืนน้ำกว้างในระดับหนึ่ง มีบรรดาเรือใหญ่ที่ทอดสมอลอยลำพักอยู่เป็นจุด ๆ พึงให้เกิดการเปรียบเทียบในใจ เมื่อได้เข้าไปใกล้เรือใหญ่เหล่านั้น “โลกนี้มันกว้างใหญ่เรามันแค่ใคร”

ถึงแม้ว่าการออกมาพบปะสังสรรค์ร่วมกับธรรมชาติในครั้งนี้จะไม่หวือหวาหมาเห่า ไม่ใช่ความตื่นเต้นตระการตา แต่อย่างน้อย ๆ มันสามารถช่วยเยียวยาจิตใจ ได้รีเฟรชสมอง รีเซ็ตความสดชื่นให้กับจิตใจได้อย่างมหาศาลเกินคาด อาจเป็นเพราะเรา ห่ า ง กันมาเป็นเวลานานแล้วกับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

ทำให้เกิดความตระหนักใดไปไม่ได้ว่า ธรรมชาติ คือสถานที่ที่จำเป็นต่อมนุษย์อยู่อย่างไรก็อย่างนั้นวันยันค่ำ แม้จะห่างไปไม่ว่านานเท่าไหร่ ต้องมีสักเสี้ยวหนึ่งให้เราได้ฉุกคิดถึงความสวยงามและความสบายใจเมื่อได้ไปเยี่ยมเยือน เพราะธรรมชาติขาดเราไม่เป็นไร แต่หากเราขาดธรรมชาติแวดล้อมไป ไม่มีใครอยู่ได้อย่างแน่นอน

กลับไปยังบล็อก

แสดงความคิดเห็น